
คัมภีร์โลกทัศน์อสุรา บทที่ 1: ตำนานการสร้างโลก

ตำนานการสร้างโลก
กำเนิดโลก, แสงสว่าง, กลางวัน, และกลางคืน
เมื่อนานแสนนานมาแล้ว เมื่อครั้งที่โลกและจักรวาลยังคงว่างเปล่า มีมหาเทพทั้งหกเป็นผู้แทนธาตุและสรรพสิ่งทั้งมวล เหล่าเทพได้ตัดสินใจที่จะสร้างโลกขึ้นมา นำโดยลูซิสแห่งแสง โดยที่มีฝาแฝดของนาง อาทรัมแห่งความมืดที่ไม่สนใจร่วมที่จะสร้างโลกด้วย แต่เมื่อลูซิสสร้างแสงสว่างขึ้นมาในโลก ซึ่งขัดกับความต้องการของอาทรัมอย่างชัดเจน ทั้งคู่จึงต่อสู้กันอย่างยาวนาน ในเวลาที่ลูซิสชนะ โลกจะสว่างไสวไปด้วยแสง และในยามที่อาทรัมชนะ โลกจะตกอยู่ในความมืด โดยมีเศษซากของลูซิสกระจายอยู่บนฟากฟ้าเป็นหมู่ดาวพร่างพราว
หลังจากวัฏจักรของแสงและความมืดผ่านไปอย่างไม่รู้จบ เนื่องจากทั้งคู่เป็นอมตะ และไม่สามารถปลิดชีพกันได้ เทพทั้งสองที่เหนื่อยล้าจึงตกลงยุติการต่อสู้ และตกลงกันว่าจะแบ่งเวลาแสงสว่างและความมืดให้กับโลกคนละครึ่ง เกิดเป็นวัฏจักรของกลางวันกลางคืนขึ้นมา

เมื่อการต่อสู้ยุติลง เหล่าเทพจึงเริ่มสรรค์สร้างสิ่งต่างๆ เทอร์ร่าแห่งดิน ให้กำเนิดแผ่นดินและขุนเขา พืชพรรณและต้นไม้ใบหญ้า อควาแห่งน้ำสร้างผืนน้ำกว้างใหญ่ แม่น้ำลำธาร และสัตว์น้ำนานาพรรณ เวนตัสแห่งลมแยกร่างออกเดินทางไปทั้งสี่ทิศ เติมเต็มจิตวิญญาณ และการเคลื่อนไหวให้สรรพสิ่ง อิกนัสแห่งไฟได้หลอมสิ่งต่างๆ ประดิษฐ์รูปร่างเป็นสัตว์และสิ่งมีชีวิตต่างๆ บนผืนปฐพี
กำเนิดชีวิต และเผ่าพันธุ์ต่างๆ
แม้จะมีสรรพสิ่งกำเนิดขึ้น ลูซิสก็ยังเห็นว่าโลกนั้นนิ่งสงบ และน่าเบื่อเกินไป นางจึงร่วมมือกับเทพองค์อื่นๆ นอกจากอาทรัม สร้างสิ่งมีชีวิตที่จำลองพวกตนขึ้นมา “เอล์ฟ” เผ่าพันธุ์ทรงปัญญาเผ่าแรกขึ้นมาบนโลก เพื่อปกครองโลกแทนเหล่าเทพทั้งหลาย อาทรัมที่เห็นเช่นนั้น จึ่งสร้างเผ่าพันธุ์ที่มีสติปัญญาของตนขึ้นมาบ้าง โดยทำให้พวกมันแข็งแกร่ง มีจินตนาการ และมีความอยากกระหาย นางให้เขี้ยวที่แหลมคม เกล็ดที่ทนทาน “มังกร” จึงถือกำเนิดขึ้นเช่นกัน

เมื่อเทพองค์อื่นเห็นอาทรัมสร้างสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาได้ด้วยตนเอง จึงมีเทพบางองค์ได้ลองทำเช่นนั้นบ้าง เทอร์ร่าสร้างเผ่าออคผู้มีร่างกายแข็งแกร่งดุจหินผา อิกนัสได้ยืมพลังส่วนหนึ่งจากอาทรัมมาสร้างก็อบลิน แต่ไม่พอใจในรูปลักษณ์น่ารังเกียจของมัน จึงได้สร้างคนแคระเป็นของตนเอง และมอบพลังของไฟและการประดิษฐ์ให้กับพวกเขา ส่วนเวนทัสที่ชื่นชอบเหล่าเอล์ฟที่ร่วมกันสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ จึงมอบพร และพลังแห่งสายลมมากมายให้กับพวกเขา มีเพียงอควาเท่านั้นที่มิได้สร้างเผ่าพันธุ์ใดเป็นของตน
ระหว่างที่เทพองค์อื่นๆ ได้สร้างสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ของตน ลูซิสที่เริ่มเบื่อหน่ายก็ได้ค่อยๆ ศึกษาสิ่งมีชีวิตของเทพองค์อื่นๆ จับส่วนที่ตนคิดว่าเป็นข้อดีมาผสมกัน หวังจะสร้างสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบและถูกใจของตน นางใช้ดินของเทอร์ร่าปั้นเป็นรูปร่าง หล่อเลี้ยงร่างนั้นด้วยน้ำของอควา มอบจิตวิญญาณจากเวนทัส และให้สะเก็ดไฟแห่งการประดิษฐ์จากอิกนัส นอกจากนั้นนางยังมอบปัญญา และความกระหายอยากของมังกร ให้กับสิ่งมีชีวิตใหม่ ที่เธอเรียกมันว่า “มนุษย์” นี้ด้วย
ความขัดแย้งของเทพเจ้า
ในเวลานั้น เทพแต่ละองค์ที่มีเผ่าพันธุ์ที่ตนสร้างสรรค์และชมชอบ ก็พยายามผลักดันและอุ้มชูเผ่าของตนให้เป็นใหญ่ บ่อยครั้งที่เหล่าเทพกระทบกระทั่งกัน และทำให้โลกเสียสมดุล เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายภายในโลกเบื้องล่าง โลกถูกแยกและฉีกเป็นเสี่ยงๆ เกิดเป็นดินแดนต่างๆ ทั้งทวีป เกาะแก่ง และโลกใต้พิภพ เหล่า ปีศาจ อสูรกาย สัตว์ประหลาด มากมายก็เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ เป็นผลพวงจากความขัดแย้งของเหล่าเทพ และธรรมชาติที่เสียสมดุล
ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องราวที่แท้จริงเป็นอย่างไร บ้างก็ว่าเกิดข้อตกลงสงบศึกในหมู่เทพ แต่ว่ามีเทพองค์ใดองค์หนึ่งทำผิดสัญญา ในบางข้อมูลระบุว่า มีหนึ่งในเหล่าเอล์ฟ เดินทางไปยังทวีปทางเหนือ และสังหารมังกรตนหนึ่ง ซึ่งกลายเป็นชนวนของสงครามในภายหลัง แต่ไม่ว่าเรื่องราวที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร ในตอนจบ อาทรัมถูกลูซิสแยกส่วนออกเป็นเจ็ดชิ้น แล้วทิ้งชิ้นส่วนนั้นกระจายออกไปทุกมุมของโลก เป็นการผนึกไม่ให้นางฟื้นคืนชีพกลับมาได้อีก และเหล่าเทพก็ตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซง เรื่องราวบนโลกอีกต่อไป
