
คัมภีร์โลกทัศน์อสุรา บทที่ 12: สิ่งมีชีวิตและสัตว์ประหลาด (ส่วนที่ 2)

ทวีปแองเจเลียเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งสัตว์ป่าธรรมดา พืช และแมลงกลายพันธุ์ สิ่งมีชีวิตกึ่งวิญญาณ ไปจนถึงมังกร และปีศาจโบราณ พวกมันปรากฏอยู่ทุกหนแห่ง ไม่ว่าจะเป็นป่าเขียวชอุ่ม ทุ่งราบกว้างใหญ่ ถ้ำใต้ดินลึก หรือแม้กระทั่งในดันเจี้ยนลี้ลับที่ถูกสร้างขึ้นโดยพลังเวท หรืออารยธรรมโบราณ
เพื่อให้นักผจญภัยสามารถรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมาคมนักล่า และอะคาเดมี่ ได้ร่วมมือกันพัฒนาระบบการจำแนกสิ่งมีชีวิตขึ้นมา การจัดประเภทนี้ เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับนักผจญภัย ช่วยให้สามารถประเมินระดับอันตราย และปรับกลยุทธ์ได้ทันที เมื่อต้องพบเจอสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในสภาพแวดล้อมที่คาดไม่ถึง แม้ว่าจะไม่ใช่ระบบที่สมบูรณ์ทางวิชาการ แต่ก็ถือเป็นมาตรฐาน ที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบัน ภายในหมู่นักผจญภัยของจักรวรรดิเมทัลลิก้า
รายการต่อไปนี้คือกลุ่มสิ่งมีชีวิตและสัตว์ประหลาดที่พบเห็นได้ยากและมีอันตราย ในทวีปแองเจเลีย
สิ่งมีชีวิตประเภทมังกร (Dragon-type)
สิ่งมีชีวิตประเภทมังกรเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ทรงพลัง และน่าเกรงขามที่สุดในทวีปแองเจเลีย โดยมีความหลากหลายทั้งในด้านขนาด และวิถีการดำรงชีวิต บางสายพันธุ์มีรูปร่างเล็ก ขณะที่บางสายพันธุ์มีขนาดมหึมา บ้างก็สามารถบินได้บนท้องฟ้า และบางชนิดก็ไม่มีแม้แต่ปีกด้วยซ้ำ พลังเวทของพวกมันมักแสดงออกในรูปแบบของธาตุต่างๆ เช่น ไฟ น้ำแข็ง สายฟ้า ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และสิ่งแวดล้อมที่มันอาศัยอยู่
ความเชื่อมโยงของมังกรสืบย้อนกลับไปถึง “มังกรโบราณ” ที่เทพีอาทรัมสร้างขึ้น ในยุคแรกเริ่ม เชื่อกันว่าลูกหลานของพวกมันปรับตัว และวิวัฒนาการตามภูมิประเทศ และสภาพแวดล้อม จนกลายเป็นสายพันธุ์ที่แตกแขนงไปทั่วทั้งทวีป ด้วยเหตุนี้จึงมีนักวิชาการบางฝ่ายเสนอว่าชาวซอเรี่ยน ซึ่งมีเชื้อสายของมังกรโบราณ อาจถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่สิ่งมีชีวิตประเภทมังกรเช่นกัน แทนที่จะเป็นประเภทกึ่งมนุษย์ เหมือนกับเผ่าอื่นๆ
ตัวอย่างของมังกรที่น่าสนใจได้แก่
- เดรก และ เดรโก้ ทั้งสองเป็นสายพันธุ์ย่อยของมังกร ที่อาศัยในเขตหุบเขาเดธวอลเล่ย์ แม้จะอาศัยในถิ่นที่อยู่เดียวกัน แต่มังกรทั้งสองสายพันธุ์กลับปรับตัวได้ต่างกันอย่างชัดเจน โดยที่เดรก คงความสามารถในการบินด้วยปีกอย่างฉวัดเฉวียนเหนือน่านฟ้าของหุบเขา เพื่อออกล่าเหยื่อ แต่เดรโก้กลับเป็นมังกรที่ไม่สามารถบินได้ และใช้ความเร็วของขาสองข้าง ในการวิ่งไล่กวดเหยื่อแทน

สิ่งมีชีวิตประเภทกึ่งมนุษย์ (Demihuman-type)
สิ่งมีชีวิตประเภทกึ่งมนุษย์ หมายถึงกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่าง ลักษณะ และความสามารถ ใกล้เคียงกับมนุษย์ โดยมากจะมีรูปร่างสองแขนสองขา สามารถใช้อาวุธ เครื่องมือ หรือสวมใส่อุปกรณ์ได้ ทำให้พวกมันมีศักยภาพในการต่อสู้ และการจัดตั้งสังคมใกล้เคียงกับมนุษย์ ในการจำแนกทั่วไป แต่เดิมหมวดหมู่นี้ ถูกใช้ในการแยกเผ่าพันธุ์อื่นๆ ที่ไม่ขึ้นตรงกับจักรวรรดิแต่เดิม เช่น เผ่านัล และ เผ่าอสุรา
อย่างไรก็ตาม การจัดหมวดหมู่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็น “กึ่งมนุษย์” ได้กลายเป็น ประเด็นโต้แย้ง ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการตีความที่มักลดทอนคุณค่าความเป็นเผ่าพันธุ์ หรือถูกใช้เป็นเหตุผลทางการเมือง ในการแบ่งแยกและทำสงคราม ปัจจุบันแม้ว่ามีกลุ่มนักวิชาการ และผู้แทนจากบางเผ่าออกมาต่อต้านการใช้คำว่า “กึ่งมนุษย์” แต่ในทางปฏิบัติ ระบบการจำแนกนี้ ยังคงถูกใช้อย่างแพร่หลาย เพราะเป็นวิธีที่เข้าใจง่ายในเชิงการผจญภัยและการจัดการภัยคุกคาม
ตัวอย่างของกึ่งมนุษย์ที่น่าสนใจได้แก่
- โทรลล์ เป็นเผ่าพันธุ์กึ่งมนุษย์ที่อาศัยในถ้ำมืด ในโครงข่ายถ้ำภายในหุบเขาเดธวอลเล่ย์ พวกมันสามารถยืนสองขา มีขนยาวปกคลุมร่างกาย และมีแขนยาวและใหญ่ สามารถถืออาวุธและสิ่งของเพื่อใช้ในการต่อสู้ได้ พวกโทรลล์มีลักษณะของการรวมกลุ่ม และมีจ่าฝูงภายในกลุ่ม แต่ไม่พบว่าพวกมันมีอารยธรรม หรือความสามารถในการสื่อสาร แบบเดียวกับเผ่าพันธุ์ที่มีปัญญาอื่นๆ จึงยังนับว่าเป็นอสูรกายอยู่

- กินรี และ ชนเผ่าลับแล พบได้ในป่าเขตร้อนลับแล ในฝั่งตะวันออกของทวีปแองเจเลีย นับเป็นการค้นพบใหม่ของจักรวรรดิในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เนื่องจากทั้งสองเผ่าพันธุ์ อาศัยในพื้นที่ลึกลับ เข้าถึงยาก และไม่ปรากฏการตั้งอารยธรรมเหมือนเผ่าอื่นๆ จึงยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มสิ่งมีชีวิตนี้

สิ่งมีชีวิตประเภทผีดิบ (Undead-type)
สิ่งมีชีวิตประเภทผีดิบคือสิ่งมีชีวิตที่เกิดจาก ซากศพที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ผ่านอำนาจเวทมนตร์ คำสาป หรือปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ความหลากหลายของผีดิบ ขึ้นอยู่กับสภาพของศพ ต้นกำเนิด และพลังเวทที่เกี่ยวข้อง บางชนิดเป็นเพียงร่างไร้สติ ที่เคลื่อนไหวตามคำสั่ง หรือตามสัญชาตญาณ ขณะที่บางชนิดกลับมีสติปัญญาหลงเหลือ และยังมีอำนาจเหนือธรรมชาติบางอย่างด้วย
นักวิชาการในจักรวรรดิและศาสนจักร ต่างจัดผีดิบเป็น ตัวอย่างที่ชัดเจน ของการบิดเบือนวัฏจักรชีวิต และมักเชื่อมโยงการปรากฏตัวของพวกมัน เข้ากับเวทมนตร์ต้องห้าม หรืออิทธิพลของเทพีอาทรัมในบางแขนง อย่างไรก็ตามในบางกรณี ผีดิบอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ในพื้นที่ที่มีพลังวิญญาณหนาแน่นผิดปกติ หรือสนามรบเก่าแก่ ที่เต็มไปด้วยความตาย และคำสาป
ตัวอย่างของผีดิบที่น่าสนใจได้แก่
- ปีศาจโครงกระดูก เป็นหนึ่งในประเภทของผีดิบที่พบได้ทั่วไป เนื่องจากซากศพที่มีอายุมาก มักจะเหลือเพียงกระดูกทิ้งไว้เบื้องหลัง พลังงานที่ทำให้เกิดผีดิบขึ้น มักเกาะบนโครงกระดูก และทำให้พวกมันกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง พวกมันได้เปรียบผีดิบชนิดอื่นๆ เนื่องจากร่างกายของมันไม่ได้ผุพัง เหมือนผีดิบที่เกิดจากซากศพที่ใหม่กว่า

- ผีตาโขน ถูกปลุกขึ้นมาด้วยกระบวนการทางอาคมโบราณ ภายในวิหารท้าวจตุกร ในเขตแดนของชาวอสุรา พวกมันเกิดจากอาคมที่ทรงพลังภายในวิหาร ทำให้มีพลังเหนือมนุษย์ และก็มีปรากฏว่าผีตาโขนบางตน ยังสามารถใช้เวทมนตร์ได้ด้วย

สิ่งมีชีวิตประเภทผี (Ghost-type)
สิ่งมีชีวิตประเภทผีคือปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ที่เกิดจากการควบแน่นของวิญญาณ ไม่ได้มีร่างกายทางกายภาพเหมือนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และแตกต่างอย่างชัดเจนจากสิ่งมีชีวิตประเภทผีดิบ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของซากศพเดิม การปรากฏของสิ่งมีชีวิตประเภทผียังคงเป็น ปริศนาทางวิชาการ นักวิจัยและนักเวทจำนวนมาก ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าเพราะเหตุใด พลังวิญญาณบางชนิดจึงกลายสภาพเป็นสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวได้เอง
สิ่งมีชีวิตประเภทผีมักมีจำนวนน้อย และหายาก ทำให้การศึกษาและการจำแนกพวกมัน เป็นไปอย่างจำกัด นักผจญภัยจำนวนมากจึงต้องอาศัยข้อมูลจากบันทึกประสบการณ์ตรง มากกว่างานวิจัยที่ยืนยันได้ชัดเจน ลักษณะเด่นของพวกมันคือ การไม่ถูกรบกวน จากอาวุธทางกายภาพทั่วไป ไม่เหมือนกับผีดิบที่ยังสามารถทำลายได้ด้วยแรง หรือการโจมตีธรรมดา การต่อกรกับสิ่งมีชีวิตประเภทผีจึงจำเป็นต้องอาศัย เวทมนตร์ การอัญเชิญพลังศักดิ์สิทธิ์ หรืออาวุธพิเศษ ที่สามารถแตะต้องพลังวิญญาณโดยตรง
สิ่งมีชีวิตประเภทหิน (Mineral-type)
สิ่งมีชีวิตประเภทหินคือกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้มีรากฐานจากเนื้อหนัง หรือเซลล์ชีวภาพเหมือนสิ่งมีชีวิตทั่วไป แต่กำเนิดขึ้นจาก หินและแร่ธาตุในธรรมชาติ บางชนิดเกิดจากการสร้างขึ้นโดยเจตนา ผ่านพิธีกรรมเวทมนตร์ เช่น โกเลมที่ถูกปลุกขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่เฝ้ายาม หรือเป็นแรงงาน ขณะที่บางชนิดเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติหายาก เช่น พลังเวทที่อัดแน่นอยู่ในแร่หิน จนก่อให้เกิดจิตสำนึก และการเคลื่อนไหวได้เอง
สิ่งมีชีวิตประเภทหินมักมีความแข็งแกร่งสูง ร่างกายที่ประกอบด้วยหิน หรือผลึกทำให้ทนทาน ต่อการโจมตีทางกายภาพ และยากต่อการทำลาย แต่ก็แลกมากับความเชื่องช้า และข้อจำกัดด้านการเคลื่อนไหว สิ่งมีชีวิตบางชนิดในประเภทนี้ ยังสามารถดูดซับพลังเวทจากสิ่งแวดล้อม หรือใช้คุณสมบัติของแร่ธาตุ ที่ประกอบร่างกายตนเองเป็นอาวุธได้อีกด้วย
ตัวอย่างของสิ่งมีชีวิตประเภทหินที่น่าสนใจได้แก่
- โกเลม คือรูปปั้นหินขนาดใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยพิธีกรรมทางเวทมนตร์ พวกมันมักจะได้รับคำสั่งง่ายๆ เช่น ปกป้องพื้นที่จากผู้บุกรุก หรือทำงานบางอย่างซ้ำๆ ไปมา โกเลมมีด้วยกันหลายชนิด ตามแต่พื้นฐานของสิ่งที่สร้างมันขึ้นมา

- ผู้เฝ้ามอง และผู้รับใช้ คือสิ่งมีชีวิตประหลาดที่มักจะเกิดจาก สิ่งมีชีวิตหรือตัวตนที่ทรงพลัง เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม และธรรมชาติ ให้มารับใช้ตน มันอาจจะเกิดจากหินแร่ น้ำแข็ง หรือสิ่งต่างๆ มารวมตัวกัน เพื่อปกป้อง หรือเป็นหูเป็นตา ให้กับสิ่งที่ทรงพลังกว่ามัน

สิ่งมีชีวิตประเภทปีศาจ (Demon-type)
สิ่งมีชีวิตประเภทปีศาจถือเป็นหมวดหมู่ที่มีลักษณะกว้างและไม่ตายตัว ครอบคลุมสิ่งมีชีวิตลี้ลับ ที่ไม่สามารถระบุ หรือจำกัดความได้อย่างชัดเจน จุดกำเนิดของพวกมันมักเชื่อมโยงกับ พลังงานชั่วร้าย, พลังเวทที่บิดเบี้ยว หรือการปนเปื้อน ของโลกวิญญาณ ทำให้มีทั้งที่เกิดขึ้นเองในธรรมชาติ บางส่วนมาจากส่วนลึกใต้พิภพ และบางชนิดถูกสร้างขึ้นจากพิธีกรรมต้องห้าม หรืออุบัติเหตุทางเวทมนตร์
ลักษณะภายนอกของปีศาจมีความหลากหลาย และผิดธรรมชาติ บางตนอาจมีรูปร่างคล้ายสิ่งมีชีวิตที่รู้จักกัน แต่ถูกทำให้บิดเบี้ยวจนไม่เหลือความคุ้นเคย ขณะที่บางตนกลับไม่สามารถอธิบายได้ด้วยกรอบของสิ่งมีชีวิตปกติ สิ่งที่เป็นจุดร่วมของปีศาจ ทุกประเภท คือความผิดธรรมชาติของมัน ที่ส่งผลให้เป็นภัยคุกคามต่อสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะด้วยการแพร่พลังงานที่กัดกิน ความสามารถในการดึงดูดสิ่งชั่วร้ายเข้ามา หรือความก้าวร้าวที่ไม่สามารถคาดเดาได้
ตัวอย่างของปีศาจที่น่าสนใจได้แก่
- อสูร แม้จะมีชื่อคล้ายกับเผ่าอสุรา แต่อสูรเป็นปีศาจประเภทหนึ่ง ที่เกิดจากเวทมนตร์ และการอัญเชิญ หรืออาศัยในสถานที่ที่ผิดแปลกจากธรรมชาติ พวกมันมีรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่มีผิวหนังสีประหลาด ไม่ว่าจะ ดำ แดง หรือม่วง มีเขาแหลมๆ จากศีรษะ และมีปีกกลางหลัง พวกมันมีด้วยกันหลายระดับ และหลายชนิด ตามแต่เวทมนตร์ และสถานที่ ที่ทำให้พวกมันเกิดขึ้น และเป็นปีศาจที่พบเจอได้ง่ายที่สุด ในการผจญภัย

- มิมิค เป็นปีศาจที่อาศัยอยู่ในหีบสมบัติ ที่เกิดจากความโลภและความต้องการของนักผจญภัย พวกมันมีลักษณะร่างกายที่ไม่แน่นอน คล้ายเงามืดภายในหีบสมบัติ และคอยทำร้ายผู้คน ที่ผจญภัยในโบราณสถานต่างๆ
