
คัมภีร์โลกทัศน์อสุรา บทที่ 6: คลาสเผ่ามนุษย์

1. คาเดท (Cadet)
อาชีพเริ่มต้น

ในสังคมของจักรวรรดิเมทัลลิก้า แม้ว่าทุกคนจะมีอิสระในการประกอบอาชีพก็จริง แต่เส้นทางของการฝึกฝน ผจญภัย หรือไขว่คว้าโอกาสใหม่ๆ มักจะเริ่มต้นด้วยการเป็น คาเดท หรือนักผจญภัยฝึกหัด เนื่องจากทางสมาคมต่างๆ และอคาเดมี่มีทรัพยากรมากมาย และมีหลักสูตรการสอน และการเริ่มต้นการผจญภัยที่ครบถ้วน ทำให้ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มสาว ที่ต้องการไขว่คว้าโอกาสใหม่ๆ หรือผู้ต้องการความท้าทายในการผจญภัย มักจะมาเริ่มต้นที่นี่
คาเดทไม่มีทักษะความสามารถมากนัก พวกเขาถูกฝึกฝนให้มีทักษะต่อสู้ระดับเบื้องต้น ทักษะในการเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน และการเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ทั้งนี้ก็เพื่อเปิดช่องทาง ในการฝึกฝนสายอาชีพ หรือทักษะที่ซับซ้อนกว่าในอนาคต ของเส้นทางที่คาเดทคนนั้นจะเลือกเดิน
2. ไฟท์เตอร์ (Fighter)
อาชีพขั้นแรก พัฒนาจากคาเดท เลเวล 11

เหล่านักสู้ภายในจักรวรรดิเมทัลลิก้า เดิมเคยเป็นกำลังหลักของกองทัพ และเป็นผู้นำของเซนจูเรี่ยน แต่หลังจากการปรับเปลี่ยนการปกครอง และเทคโนโลยีการรบแบบใหม่ ทำให้การใช้อาวุธประชิดแบบโบราณ ไม่ได้เป็นกำลังหลักที่ใช้ในสงครามในยุคใหม่อีกต่อไป แต่ทั้งนี้ศาสตร์และศิลป์ของการต่อสู้ด้วยอาวุธก็ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันตัว และการผจญภัย สมาคมนักสู้จึงถูกจัดขึ้นเป็นเหมือนส่วนเสริมของกำลังทหารภายในจักรวรรดิอีกที
เหล่าผู้หลงใหลในวิชาการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นวิชาดาบ หอก ขวาน และอาวุธสงครามอื่นๆ จึงได้รวมตัวกันที่สมาคมนักสู้ในเซาเทิร์นฟอร์ท เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ฝึกฝน ประลองฝีมือ และช่วยกันรักษาวิชาการต่อสู้ให้ยังคงอยู่ในวัฒนธรรมของจักรวรรดิ และนอกจากการฝึกฝนฝีมือแล้ว บ่อยครั้งผู้คนจากองค์กรต่างๆ ก็มักจะมาดึงตัว หรือตามหาผู้มีความสามารถ ไปช่วยงาน หรือจ้างวานให้พวกเขาไปช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ อีกด้วย
3. เรนเจอร์ (Ranger)
อาชีพขั้นแรก พัฒนาจากคาเดท เลเวล 11

เป็นที่ทราบกันดีว่า ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิเมทัลลิก้า แม้ว่าภายในเมืองใหญ่ๆ จะสงบและมีชีวิตที่สุขสบาย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพื้นที่ชนบท และอาณาเขตภายนอกเมือง จะเป็นพื้นที่ปลอดภัย เหล่าเรนเจอร์คือการรวมกลุ่มของนักผจญภัย นักล่า ผู้ชำนาญทาง และเหล่าผู้คนที่คอยช่วยเหลือคนตัวเล็กตัวน้อย ที่จักรวรรดิไม่อาจจะดูแลได้อย่างทั่วถึง พวกเขาชำนาญในการซุ่มโจมตี สำรวจเส้นทาง เดินป่า และการต่อสู้แบบกองโจร
ทางเทคนิคแล้ว ถึงแม้ว่าเรนเจอร์จะเป็นหน่วยอาสา ที่ขึ้นตรงกับหน่วยงานการปกครอง ของจักรวรรดิโดยตรง แต่ในทางปฏิบัติแล้ว พวกเขากระจัดกระจายเป็นกลุ่มก้อนเล็กๆ ที่ซื่อตรงต่อถิ่นที่อยู่ พวกพ้อง หรืออุดมการณ์ของตัวเองเสียมากกว่า ทำให้หลายครั้งแม้ว่าทางการ จะออกคำสั่งลงมาโดยตรง ก็ไม่ได้หมายความว่าเหล่าเรนเจอร์จะเชื่อฟังอย่างไม่ตั้งคำถาม บ่อยครั้งพวกเขาจะปฏิบัติการ หรือทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ มากกว่าฟังคำสั่ง ของผู้อยู่เบื้องบนที่ห่างไกล และใช้ชีวิตอยู่ในเมืองอย่างสุขสบาย ต่างจากผู้คนในแดนห่างไกล
4. แคสเตอร์ (Caster)
อาชีพขั้นแรก พัฒนาจากคาเดท เลเวล 11

เส้นทางของการเรียนรู้เวทมนตร์ของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไป แต่มีเส้นทางหนึ่งที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ นั่นคือการเข้าร่วมกับสมาคมจอมเวทในจักรวรรดิ เนื่องจากพวกเขารวบรวมเหล่าผู้แสวงหาและพยายามจะศึกษา เข้าใจ และใช้งานเวทมนตร์ ในรูปแบบต่างๆ ทำให้สมาคมจอมเวทกลายเป็นสถานที่ที่ดีที่สุด สำหรับผู้ต้องการศึกษาพลังเวท หรือควบคุมพลังเวทที่ตื่นขึ้นมา
เมื่อเข้ามาในสมาคมจอมเวทแล้ว ทุกคนจะถูกเรียกกันอย่างเสมอภาคว่าแคสเตอร์ แต่หลังจากได้เข้ามาในเส้นทางของจอมเวทอย่างสมบูรณ์แล้ว ใครจะสนใจจะวิจัยเวทมนตร์ด้านใด หรืออยากจะศึกษากับอาจารย์ หรือรวมกลุ่มกับผู้ศึกษาเวทมนตร์คนไหน ก็สุดแล้วแต่ความต้องการ และเส้นทางของแต่ละคน ซึ่งสมาคมจะคอยดูแลความเรียบร้อยโดยรวม และอำนวยความสะดวก ในการติดต่อสื่อสาร และหาวัสดุอุปกรณ์เบื้องต้นเท่านั้น และเพราะว่าการไม่ควบคุม และจัดระเบียบนี้เอง ทำให้สมาคมเวทมนตร์มักขัดแย้ง และมีข้อถกเถียงกับศาสนจักรอยู่เสมอ
5. เซนจูเรี่ยน (Centurion)
อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากคาเดท ไฟเตอร์ หรือเรนเจอร์ เลเวล 41

จักรวรรดิต้องการกำลังทหารเพื่อการดูแลความสงบ และต่อต้านภัยอันตรายอยู่เสมอ ภายในเขตแดนของจักรวรรดิ จึงมีการคัดกรอง และรับสมัครทหารที่จะเข้ามาทำงาน และปกป้องเขตแดนอย่างสม่ำเสมอ ในหมู่ทหารที่เข้ามาสมัคร มีเพียงไม่กี่คนที่จะผ่านบททดสอบ และการฝึกฝนอย่างเข้มงวด จนสามารถเป็นทหารหน่วยพิเศษ เซนจูเรียน ที่ชาวจักรวรรดิภาคภูมิใจ และเป็นกำลังหลักของจักรวรรดิ ทั้งในการลาดตระเวนเขตแดนอันตรายในยามสงบ และการสู้รบกับภัยภายนอกอาณาจักร
เซนจูเรี่ยนทุกคนถูกฝึกให้มีทักษะที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธระยะประชิด อย่างกระบี่ หรืออาวุธระยะไกลในยุคใหม่เช่นปืน นอกจากนี้ยังมีทักษะในการเอาตัวรอดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปฐมพยาบาล การประดิษฐ์และใช้งานวัตถุระเบิด และการซ่อนตัว หรือเรียกกำลังเสริมในยามคับขัน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างทหารที่สมบูรณ์แบบ ให้จักรวรรดิมีแต้มต่อ ในการเรียกใช้ และจัดสรรกำลังพลในสนามรบนั่นเอง
6. เบลดมาสเตอร์ (Blademaster)
อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากไฟท์เตอร์ เลเวล 41

แม้สมาคมนักสู้ จะมีลักษณะคล้ายกับองค์กรอิสระ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ครั้งหนึ่งมันคือองค์กรทางการทหาร และในปัจจุบันก็ยังถูกควบคุมดูแลโดยทหารของจักรวรรดิอยู่ และไม่ใช่ว่าทุกคนจะสะดวกใจ และพึงพอใจที่จะอยู่ภายใต้หูตาของจักรวรรดิเสมอไป เหล่านักสู้หลายคนที่ต้องการอิสระในการเคลื่อนไหว เพื่อที่จะได้กำหนดเส้นทาง ชะตาชีวิตของตนเอง หรือแม้กระทั่งทำเรื่องนอกกฏหมาย อาจจะเลือกที่จะถอนตัว ออกจากสมาคมนักสู้ มาอยู่ภายใต้ธงที่เคลื่อนไหวได้อิสระมากกว่า เราเรียกคนกลุ่มนี้ว่า เบลดมาสเตอร์
เบลดมาสเตอร์แต่ละคน อาจจะมีเหตุผล เป้าหมาย หรืออุดมการณ์ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่จุดร่วมที่คล้ายกันคือ ความต้องการอิสระ ไม่ว่าจะเป็นอิสระในการฝึกฝนและขัดเกลาวิชาการต่อสู้ หรืออิสระในการทำอะไรตามใจตนเอง และสิ่งที่จะตอบโจทย์ของพวกเขาได้ คือการเข้าสู่เส้นทางที่เรียกกันว่า “วิถีแห่งดาบ” ซึ่งบอกเล่าต่อๆ กัน ในหมู่ผู้ฝึกฝนวิชาดาบ พวกเขามักอยู่ตามชายแดน ชายขอบของจักรวรรดิ ดำรงชีพด้วยการเป็นทหารรับจ้างให้กับพ่อค้า นักสำรวจ หรือแม้กระทั่งออกผจญภัยด้วยตนเอง เส้นทางวิถีแห่งดาบของเบลดมาสเตอร์แต่ละคน จึงต่างกันโดยสิ้นเชิง ถึงแม้จะมีคนที่มีเป้าหมายคล้ายกันก็ตาม
7. เบอร์เซอร์เกอร์ (Berserker)
อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากไฟท์เตอร์ เลเวล 41

ไม่ใช่นักสู้ทุกคนที่ต้องการจะขัดเกลาวิชาอาวุธ และฝีมือในการต่อสู้ของตนเสมอไป นักสู้บางกลุ่ม ก็เพียงแต่ต้องการต่อสู้ในแนวรบที่ห่างไกล โค่นอสูรกายอันตราย และดึงเอาความกระหายอยากของตน ออกมาเป็นพลังที่ขับเคลื่อนร่างกาย ได้ดิบเถื่อน และโหดเหี้ยมได้ยิ่งกว่า วิชาหรือทักษะเป็นไหนๆ เหล่านักสู้เหล่านี้ถูกเรียกว่าเบอร์เซอร์เกอร์ พวกเขาใช้อาวุธใหญ่ที่เน้นพลังทำลายล้าง อย่างขวานและดาบใหญ่ และฝึกฝนจิตใจและร่างกาย ให้ใช้อารมณ์ ความโกรธ และความกระหายมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้
การต่อสู้ของเบอร์เซร์กเกอร์ถูกตราหน้าและเป็นที่ครหาอย่างมากในจักรวรรดิ โดยเฉพาะจากทางศาสนจักร เหล่านักบวชต่างให้ความเห็นว่า การดึงเอาพลังของความกระหาย และอารมณ์ความรู้สึกออกมาใช้ในระดับของเบอร์เซอร์เกอร์นั้น สุ่มเสี่ยงที่จะดึงพลังบางอย่าง ซึ่งในเป็นพลังที่เทพีอาทรัมให้กำเนิดขึ้น คาบเกี่ยวระหว่างเส้นของการลบหลู่ และหมิ่นพรของเทพีลูซิส แต่อีกความเห็นหนึ่งก็กล่าวว่า ความโกรธและอารมณ์ด้านลบเหล่านี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติของมนุษย์ จึงไม่ใช่เรื่องผิดกฏหรือนอกรีตแต่อย่างใด
8. พาลาดิน (Paladin)
อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากไฟท์เตอร์ เลเวล 41

หนึ่งในกลุ่มฝักฝ่ายที่มักจะมองหาคนที่มีฝีมือภายในสมาคมนักสู้อย่างต่อเนื่อง คงจะหนีไม่พ้น ศาสนจักรแห่งลูซิสนั่นเอง เนื่องจากทางศาสนจักรถูกลดอำนาจลงในช่วงร้อยปีหลังมานี้ ทำให้การคัดเลือกคนเข้ามาในกองกำลังของศาสนจักร ยิ่งต้องเข้มงวด และคัดกรองเฉพาะ คนระดับหัวกะทิเท่านั้น ในเหล่ารายการความต้องการของโบสถ์ นอกจากความสามารถในการต่อสู้แล้ว ยังมีเรื่องของพื้นฐานทางเวทมนตร์ที่ดี และความศรัทธาต่อคำสอน และเคารพในตัวตนของเทพลูซิส และเทพองค์อื่นๆ อย่างไม่สั่นคลอน
หลังจากถูกคัดเลือกเป็นพาลาดิน พวกเขาจะถูกฝึกอย่างเข้มงวด เพื่อเปลี่ยนให้นักรบทั่วๆ ไป ให้กลายเป็นสุดยอดนักรบที่สามารถปกป้องศาสนจักร และผู้คนที่ศรัทธาในเหล่าเทพ จากภัยอันตรายต่างๆ ไม่ว่าจะทั้งทางกายภาพ เวทมนตร์ หรือจิตใจ อาวุธหลักของเหล่าพาลาดิน มักจะเป็นหอกหรือกระบี่ และนอกจากนี้ผู้คนจะเห็นพวกเขาสวมชุดเกราะใหญ่และหนา พร้อมกับโล่ในมือที่พร้อมจะปกป้องทุกคน
9. ชาร์ปชูตเตอร์ (Sharpshooter)
อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากเรนเจอร์ เลเวล 41

ชาร์ปชูตเตอร์ คือชื่อสมญาที่มอบให้กับเรนเจอร์ที่เก่งกาจและเชี่ยวชาญ ในการจัดการกับภัยอันตรายจากระยะไกล และการอ่านสถานการณ์ที่เฉียบคมจากแนวหลัง พวกเขามีประสาทสัมผัสที่ได้รับการฝึกจนเข้าขั้นเหนือมนุษย์ และความแม่นยำในการใช้ธนู ได้ราวกับกำหนดเป้าหมายได้ตั้งแต่ก่อนจะยิงเสียอีก สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการฝึกซ้อมอย่างเดียว แต่ยังเป็นผลจากการเรียนรู้และเข้าถึง “วิถีแห่งป่า” แบบที่ชาวเอล์ฟปฏิบัติ การรับรู้จังหวะของสายลม กลิ่นของดิน และสัญญาณเล็กน้อยจากสิ่งมีชีวิตรอบตัว จนกลายเป็นสัญชาตญาณ ซึ่งเป็นทักษะที่ผู้ฝึกฝนวิชาศรและธนูต่างฝันถึง
การจะได้รับชื่อสมญานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ในหมู่เรนเจอร์ที่มีฝีมือเก่งกาจด้วยกันเอง ก็มีเพียงหยิบมือเท่านั้นที่จะสามารถฝึกได้ถึงระดับที่คู่ควรกับสมญาดังกล่าว บางคนอาจจะใช้เวลาทั้งช่วงชีวิตเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้เองจึงมีข่าวลือกัน ในหมู่เรนเจอร์ว่า การที่คนๆ หนึ่งจะสามารถได้รับการฝึกให้เป็นชาร์ปชูตเตอร์ได้นั้น ต้องเป็นคนที่ได้รับพร ของเทพเวนตัสแห่งสายลม หรือไม่ก็มีสายเลือดของเอล์ฟแฝงอยู่ในร่างกายเท่านั้น
10. เทรเชอร์ฮันเตอร์ (Treasure Hunter)
อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากเรนเจอร์ เลเวล 41

เป็นที่รู้กันว่า การเข้าเป็นหน่วยอาสาเรนเจอร์นั้น ไม่ใช่งานที่จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่งคั่ง บางครั้งก็ต้องเผชิญปัญหามากมาย ทั้งเสบียงที่ส่งมาล่าช้า อุปกรณ์เสียหายโดยไม่มีงบซ่อมแซม หรือการสนับสนุนอย่างครึ่งๆ กลางๆ จากทางการ ด้วยเหตุนี้เอง เรนเจอร์หลายคนจึงมักจะ เลือกรับอาชีพเสริมกับสมาคมนักล่าไปด้วย โดยใช้ทักษะที่ตนถนัด เช่น การนำทาง พรางตัว หาสมบัติ สะเดาะกุญแจ และทักษะการใช้อาวุธที่พกพาง่าย เช่น มีด แส้ หรือปืนพก ทำให้เหล่า เทรเชอร์ฮันเตอร์มีกลเม็ดและเคล็ดลับมากมาย ในการเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ ระหว่างผจญภัยล่าสมบัติ
ในขณะที่เรนเจอร์หลายคน ใช้การล่าสมบัติและงานนักล่า เป็นอาชีพเสริมเพื่อฆ่าเวลา และหารายได้เพิ่มเติมจากการลาดตระเวน และสำรวจพื้นที่ห่างไกล ก็มีบางคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิต เป็นนักล่าสมบัติอย่างเต็มตัว และหลายคนก็มีชื่อเสียงโด่งดัง และล่ำรวยจากการพบเจอขุมทรัพย์ หรือดันเจี้ยนใหม่เป็นคนแรก กล่าวกันว่าการประสบความสำเร็จในฐานะนักล่าสมบัติ ขึ้นอยู่กับดวงและโชคชะตาอยู่มากเลยทีเดียว
11. แอสแซสซิน (Assassin)
อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากเรนเจอร์ เลเวล 41

ในบางครั้ง เส้นทางในที่แจ้งและสุจริตอาจจะไม่ตอบโจทย์ชีวิตของคนๆ หนึ่ง ในพื้นที่ห่างไกลที่เขตชายแดนของจักรวรรดิ มีการรวมตัวของกลุ่มคนนอกกฏหมาย ที่ต้องการจะใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่อยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ของจักรวรรดิ คนกลุ่มนี้ตั้งภาคีที่เรียกตนเองว่า แอสแซสซิน ขึ้นมา พวกเขาเป็นเหมือนทหารรับจ้างที่เลือกงานโดยไม่เกี่ยงว่าจะถูกหรือผิดกฏหมาย และใช้แขนงความรู้จากทุกศาสตร์ ไม่ว่าจะใสสะอาดหรือสกปรก เหล่าแอสแซสซินแฝงตัวในเงามืด และแนบเนียนไปกับผู้คน กระจายไปทั่วทุกมุมของจักรวรรดิ กลายเป็นอำนาจที่ชักใยเส้นหนึ่ง ของจักรวรรดิอยู่เบื้องหลัง
แน่นอนว่า ทางจักรวรรดิปฏิเสธและต่อต้านการมีอยู่ของคนนอกกฏหมายกลุ่มนี้ อย่างน้อยก็ในฉากหน้า บ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่หรือคนของจักรวรรดิเอง ก็ใช้บริการของพวกเขา ไม่ว่าจะด้านการข่าว หรือการกำจัดสิ่งไม่พึงประสงค์ และศัตรูของจักรวรรดิ ที่ไม่สามารถจัดการได้อย่างเปิดเผย ไม่ว่าจะด้วยทรัพยากร เกียรติยศ หรือความต่างของกำลัง เนื่องจากการทำงานที่ฉับไว แม่นยำ และเป็นความลับ ทั้งผู้จ้าง และผู้ถูกว่าจ้าง
12. วิซาร์ด (Wizard)
อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากแคสเตอร์ เลเวล 41

ศาสตร์หนึ่งที่เป็นรากฐานของความเข้าใจเวทมนตร์ของโลก คือการเข้าถึงพลังงานของธาตุต่างๆ เหล่าผู้ศึกษาพลังเวทและวิชาในแขนงนี้อย่างลึกซึ้ง มักเรียกตนเองว่า วิซาร์ด พวกเขาเป็นเจ้าแห่งมนตราและการควบคุมพหุธาตุ ดิน น้ำ ลม และไฟ โดยสืบทอดความรู้มาจากหลายแหล่ง หนึ่งในนั้นคือ “วิชาเวทย์โบราณของเอล์ฟ” ที่ผสานความเข้าใจ ต่อจังหวะของธรรมชาติและธาตุทั้งสี่เข้าด้วยกัน พวกเขาสอดประสานความได้เปรียบ เสียเปรียบ คุณสมบัติ และธรรมชาติของธาตุต่างๆ ให้อยู่ในศาสตร์เดียวกัน ควบรวมออกมาเป็นคาถาและเวทมนตร์ที่ทรงพลัง
เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านความรู้และการฝึกฝนหลายๆ อย่าง ทำให้วิซาร์ดแต่ละคน อาจจะมีความเชี่ยวชาญในคาถาของแต่ละธาตุแตกต่างกัน บางคนอาจจะเน้นไปที่ธาตุใดธาตุหนึ่ง บ้างก็อาจจะประสานความรู้ และประยุกต์คาถาของตนเองออกมาได้เป็นสอง หรือสามธาตุ และมีส่วนน้อยที่พยายามศึกษาธาตุทั้งหมดที่เป็นไปได้ แต่พวกเขาก็จะพบว่าเมื่อมาถึงจุดหนึ่ง จะมีทางตันที่ไม่อาจจะก้าวข้ามได้อยู่ หากไม่มุ่งเน้นไปที่สายใดสายหนึ่งโดยเฉพาะ
13. เครลิค (Cleric)
อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากแคสเตอร์ เลเวล 41

บ่อยครั้งที่สมาคมจอมเวท และศาสนจักร มักจะกระทบกระทั่งกัน ทั้งเรื่องความเชื่อ ความเห็น หรือวิธีการบางอย่าง ในการควบคุมหรือดูแลความปลอดภัยในการใช้เวทมนตร์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในหมู่ของผู้คนของโบสถ์เอง ก็ยังมีความต้องการที่จะคัดเลือกคน ที่มีความสามารถในการใช้เวทมนตร์ ให้มาเข้าร่วมกันฝ่ายของตนเอง และสมาคมจอมเวท ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ซึ่งสามารถเตรียมพร้อมผู้คน สำหรับการใช้เวทมนตร์ที่ยอดเยี่ยม หลายครั้งทางโบสถ์จึงได้ส่งคนของตนมาศึกษาเวทมนตร์ กับสมาคมจอมเวทย์ หรือดึงตัวจอมเวทย์ ที่มีความสามารถในการใช้เวทมนตร์ธาตุแสงไปรับใช้ศาสนจักร เราเรียกจอมเวทย์เหล่านี้ว่า เครลิค
หน้าที่ของเหล่าเครลิคคือผู้ส่งสาสน์ ตัวแทนแห่งแสงสว่าง ความหวัง และสิ่งดีงาม พวกเขามีหน้าที่เผยแพร่คำสอน ดูแลผู้คนที่ตกยาก หรือสนับสนุนนักสู้ และนักผจญภัยจากแนวหลัง พวกเขามีจุดเด่นในการใช้เวทมนตร์ธาตุแสง ซึ่งเป็นเวทมนตร์แห่งชีวิต การสนับสนุน และการส่งเสริม แต่ก็มีคาถาบางบทที่สามารถใช้ในการทำร้าย หรือทำลายสิ่งชั่วร้ายได้เป็นอย่างดี ในเวลาที่ผู้คนสิ้นหวัง ประสบภัยอันตราย และกำลังของความมืดคืบคลานเข้ามา เครลิคเป็นอีกหนึ่งกองกำลังที่โบสถ์จะใช้ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และนำสันติสุขกลับมาอีกครั้ง
14. วอร์ลอค (Warlock)
อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากแคสเตอร์ เลเวล 41

มีหลายครั้งที่อำนาจของความมืด นั่นน่าดึงดูดและน่าหลงใหล และมีผู้ศึกษาเวทมนตร์มากมาย ที่ถูกอำนาจเหล่านั้นดึงดูดเข้าไป อาจจะด้วยเหตุผลร้อยแปด ไม่ว่าจะเป็น การมองว่าเวทมนตร์ธาตุความมืดนั้น เป็นเวทธรรมชาติไม่ได้ต่างจากธาตุอื่นๆ หรือความต้องการจะใช้พลังของความมืด เพื่อทำเป้าประสงค์อะไรบางอย่างของตน เหล่าผู้ใช้และศึกษาเวทมนตร์แห่งความมืดเหล่านี้ ถูกเรียกว่า วอร์ลอค พวกเขาศึกษาศาสตร์มืด เพื่อเรียนรู้คุณลักษณะของมัน การอัญเชิญตัวตนต่างมิติ หรือการลงอาคม สร้างคำสาป และต่อต้านมนตราธาตุอื่นๆ
เหล่าวอร์ลอคหลายคน อาจจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มลัทธิสาวกแห่งอาทรัม ซึ่งเป็นลัทธิต้องห้ามภายในอาณาจักร บางคนอาจจะเป็นนักศึกษาและเรียนรู้มนตร์ดำด้วยตนเอง โดยไม่ขึ้นตรงกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ศาสนจักรแห่งลูซิส มองว่าพวกเขาเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรง และเป็นกลุ่มที่กำลังทำให้ความมืด ที่กำลังคืบคลานเข้ามา เติบใหญ่และแข็งแกร่งขึ้นไปอีก