header

คัมภีร์โลกทัศน์อสุรา บทที่ 7: คลาสเผ่าอสุรา

คัมภีร์โลกทัศน์อสุรา บทที่ 7: คลาสเผ่าอสุรา

1. ผู้ฝึกตน (Disciple)

อาชีพเริ่มต้น

ผู้ฝึกตนชาย

ในวัฒนธรรมของอสุรา เมื่ออสุรารุ่นเยาว์พร้อมที่จะเริ่มเดินทางในหนทางของตนเอง จะเข้าสู่พิธีกรรมเพื่ออุทิศตนเองให้กับการฝึกตน โดยผู้อาวุโสประจำท้องถิ่น และบิดา มารดา หรือผู้ชุบเลี้ยงตนขึ้นมา เป็นสักขีพยานในการเริ่มต้นฝึกตนนี้ เมื่อสำเร็จพิธี อสุราผู้นั้น จะสามารถออกเดินทาง ฝึกฝน และพิสูจน์ตนเอง ได้ตามวิถีและครรลองของอสุรา ซึ่งการเดินทางจะยาวนานเท่าไหร่ หรือว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด ก็ไม่มีใครอาจจะทราบได้ นอกจากเจ้าตัวเอง

เริ่มแรก ผู้ฝึกตนจะฝึกฝนทักษะเพื่อเอาตัวรอดในการเดินทางผจญภัยต่างๆ ตามที่จิตใจของตนต้องการ ไม่ว่าจะเป็นวิชาต่อสู้ด้วยหมัดมวย เวทมนตร์วิญญาณ การเดินทาง ค้นหาร่องรอย หรือการรักษาพยาบาลเบื้องต้น เพื่อเป็นการเตรียมตัวเองให้พร้อม กับหนทางอันยากลำบากข้างหน้า


2. นักรบ (Warrior)

อาชีพขั้นแรก พัฒนาจากผู้ฝึกตน เลเวล 11

นักรบหญิง

เส้นทางของนักรบ ก่อกำเนิดขึ้นจากความต้องการที่จะขัดเกลาร่างกาย และการเอาตัวรอดของตนเอง ผู้ฝึกตนชาวอสุราที่ต้องการจะเดินทางสายนี้ มักจะตามหานักรบที่แข็งแกร่งกว่า หรือปรมาจารย์ในด้านการต่อสู้ในรูปแบบต่างๆ เพื่อฝากตนเป็นศิษย์ และเรียนรู้วิชาจากอาจารย์ทีละน้อย หรือในอีกเส้นทางหนึ่ง พวกเขาอาจจะนำตนเองเข้าสู่ธรรมชาติอันป่าเถื่อนของทวีปแองเจเลียตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นมุ่งสู่ป่าดงดิบ เทือกเขาสูงชัน หรือทะเลทรายอันเวิ้งว้าง และขัดเกลาร่างกาย ของตนเองด้วยวิธีนั้น

ผู้ที่ผ่านการฝึกฝน หรือรอดชีวิตกลับมาได้จากการบำเพ็ญตน จะถูกเรียกว่านักรบ ซึ่งนักรบแต่ละคนอาจจะมีวิธีการต่อสู้ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นด้วยร่างกาย ด้วยอาวุธศาสตราต่างๆ หรือจะด้วยกลยุทธ์วิธีการต่างๆ มากมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับวิชาที่จดจำมา จากการฝึกฝนนั้นๆ


3. ผู้ใช้มนตรา (Mage)

อาชีพขั้นแรก พัฒนาจากผู้ฝึกตน เลเวล 11

ผู้ใช้มนตราชาย

เส้นทางของผู้ใช้มนตรา ก่อกำเนิดขึ้นจากความต้องการที่จะขัดเกลาจิตวิญญาณ ความรู้ และความเข้าใจต่อธรรมชาติของโลกภายในตัวอสุรา ผู้ฝึกตนที่ต้องการจะเดินทางในสายนี้ อาจจะตามหาตำหนัก สำนัก หรือเกจิอาจารย์ เพื่อเรียนรู้วิถีทาง และบำเพ็ญตนไปพร้อมๆ กับการฝึกฝนวิชาความรู้ใหม่ๆ บางคนอาจจะตามหาตำราโบราณ หรือว่าใช้การทำสมาธิ ทบทวนจิตใจ และปลุกกระแสของพลังจิตด้วยตนเอง ซึ่งไม่ว่าจะใช้วิธีใด เมื่อกระแสของพลัง สามารถส่งผ่านร่างของผู้ฝึกตน ได้มากกว่าเพียงแค่กระสุนที่ยิงออกไป เมื่อนั้นอสุราตนนั้น ก็พร้อมที่จะเข้าสู่ขึ้นต่อไปของการฝึกจิต ในฐานะผู้ใช้มนตราแล้ว

ความเข้าใจเกี่ยวกับเวทมนตร์ของอสุรานั้นต่างจากของมนุษย์ในจักรวรรดิ พวกเขาเชื่อมพลังเข้ากับ “จิตวิญญาณ” ของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตนเอง วัตถุ หรือสิ่งแวดล้อมในแบบต่างๆ ก่อนจะปลุกให้จิตวิญญาณเหล่านั้นตื่นขึ้นด้วยพลังสมาธิของตน แม้รูปแบบของเวทมนตร์ที่ออกมา จะมีบางส่วนที่คล้ายกันบ้าง และพื้นฐานของการฝึกจิต สมาธิ และความรู้รอบๆ ตัวจะไม่ต่างกันนัก แต่วิธีการที่ทำให้เกิดผลของเวทมนตร์กลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง


4. คนทรง (Shaman)

อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากผู้ฝึกตน เลเวล 41

คนทรงหญิง

อาจมีบางครั้ง ที่การฝึกตนของอสุราหนุ่มสาว อาจจะถูกรบกวนจากจิตวิญญาณ ที่ล่องลอยอยู่รอบตัว ทำให้อสุราผู้นั้นไม่สามารถพบเส้นทางของตน ได้อย่างง่ายดายเหมือนกับผู้อื่น แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป การที่อสุราจะสามารถสัมผัสจิตวิญญาณอื่น ที่ไม่ใช่วิญญาณของตนเท่านั้น เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากรากฐานวิญญาณของอสุรานั้น เชื่อมกับสรรพสิ่งรอบกาย แต่การจะฝึกฝนให้ใช้งานความสามารถนี้ได้ ต้องใช้ความพยายามอย่างสูง และบ่อยครั้งจะต้องได้รับการสั่งสอนและชี้แนะ จากเกจิอาจารย์ที่เข้าใจ และเคยผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน หากอสุราผู้นั้นสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ นานา ได้ และสามารถใช้จิตสัมผัสจิตดวงอื่นได้นั้น พวกเขาจะพร้อมที่จะกลายเป็น “คนทรง”

วิชาวิญญาณของคนทรงนั้น เป็นสิ่งที่น่าแปลกประหลาด และเหลือเชื่อ ในมุมมองของผู้ศึกษาเวทมนตร์ในจักรวรรดิ พวกเขาสามารถเรียกวิญญาณ และสร้างอาณาเขตมนตราที่ซับซ้อนได้ โดยที่ไม่ต้องใช้การเตรียมการ และความเข้าใจทางทฤษฎีเวทมนตร์เลย แม้แต่น้อย อีกทั้งคนทรงบางคนยังสามารถที่จะใช้วิญญาณ มาสถิตร่างของตน เพื่อเปลี่ยนแปลงตนเองให้กลายเป็นอสุราโบราณเมื่อครั้งบรรพกาลได้อีกด้วย


5. ขุนศึก (Warlord)

อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากนักรบ เลเวล 41

ขุนศึกชาย

ขุนศึกคือนักรบที่มากความสามารถในหมู่อสุราด้วยกันเอง เป็นเหมือนทั้งตำแหน่ง สมญา และการยอมรับนับถือในหมู่นักรบทั้งปวง ไม่มีใครสามารถขีดเส้นได้ชัดเจน ว่าเมื่อไหร่ที่นักรบที่เก่งกาจสักคน จะได้รับการยอมรับ หรือมีฝีมือมากเพียงพอที่จะถูกเรียกว่าขุนศึก แต่เหล่านักรบทั้งหลายเห็นตรงกันว่า เมื่อใครสักคนได้เป็นขุนศึกแล้ว นักรบและนักสู้คนอื่นๆ จะสามารถรับรู้ได้เองจากรัศมีของพลัง บารมี และความองอาจ ที่แสดงออกมา จากอากัปกิริยาของอสุราตนนั้น

ในรุ่นหนึ่งจะมีนักรบเพียงไม่กี่หยิบมือที่จะได้รับการยอมรับว่าเป็นขุนศึก และวิชาการต่อสู้ของขุนศึกแต่ละคน ก็อาจจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งการเลือกใช้อาวุธ ยุทโธปกรณ์ การพลิกแพลงท่วงท่า หรือกลยุทธ์ต่างๆ ในการรับมือกับศัตรู ซึ่งวิชาเหล่านี้เป็นเหมือนตราสัญลักษณ์ หรือเครื่องพิสูจน์ร่องรอย เส้นทาง และความยิ่งใหญ่ที่ขุนศึกคนนั้นๆ ทิ้งเอาไว้ ในเส้นทางแห่งการฝึกตนของอสุรา


6. เจ้าสังเวียน (Champion)

อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากนักรบ เลเวล 41

เจ้าสังเวียนหญิง

อีกเส้นทางหนึ่งในการขัดเกลาร่างกายและจิตใจตนเองของอสุรา คือเส้นทางแห่งจ้าวสังเวียน เส้นทางนี้เกิดจากประเพณีและวัฒนธรรมในการประลองและต่อสู้ เมื่อมีโอกาสในงานรื่นเริง หรือการรวมตัวกันของผู้มีฝีมือ บ่อยครั้งที่การประลองเช่นนี้เกิดขึ้น ชาวอสุราที่ได้รับชัยชนะ อย่างต่อเนื่องในการประลอง จะถูกเรียกขานว่าเจ้าสังเวียน ซึ่งเป็นเกียรติยศที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่จะได้รับมัน ทั้งนี้ก้เพราะว่าพวกเขาต้องแข่งขันกันเองเพื่อสมญานี้ด้วย

เส้นทางของเจ้าสังเวียนจะแตกต่างจากนักรบทั่วไป พวกเขาไม่ได้มุ่งเน้นที่การฝึกวิชา ศาสตราวุธ หรือกลศึกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่จะมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนร่างกายของตน ให้กลายเป็นอาวุธที่สมบูรณ์แบบ แต่ไม่เพียงแค่ร่างกายเท่านั้น จิตใจของผู้เดินบนเส้นทางแห่งเจ้าสังเวียน ก็ถูกขัดเกลาและควบแน่น จนสามารถปรากฏออกมา ในรูปแบบที่คล้ายเวทมนตร์เช่นกัน ราวกับว่าพลังชีวิต และจิตวิญญาณของพวกเขา แผ่พุ่งออกมา และพร้อมที่จะระเบิดออก ในทุกกระบวนท่าที่พวกเขาใช้ในการประลอง


7. นักพยากรณ์ (Oracle)

อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากผู้ใช้มนตรา เลเวล 41

นักพยากรณ์ชาย

ศาสตร์ลี้ลับแขนงหนึ่งของอสุรา นอกจากเวทมนตร์ที่ใช้วิญญาณเป็นสื่อกลาง ที่แปลกประหลาดสำหรับชาวจักรวรรดิแล้ว ก้ยังมีวิชาการอ่านดวงชะตา และกำหนดฟ้าดินอีกด้วย ซึ่งผู้ศึกษาเวทมนตร์ และนักทฤษฏิเวทมนตร์หลายคนของจักรวรรดิ ก็ยังไม่สามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ และให้คำอธิบายถึงศาสตร์แขนงนี้ของชาวอสุราได้ เหล่าผู้ใช้วิชาแขนงนี้นั้น ถูกเรียกว่านักพยากรณ์ วิชาของนักพยากรณ์นั้น อาจจะถูกสรุปได้สั้นๆ ว่า เป็นเพียงการอ่านความน่าจะเป็น และทำนายปรากฏการณ์หรือความเป็นจริงต่างๆ เท่านั้น

แต่หากมองลงไปให้ลึกแล้ว ผู้ศึกษาจะพบว่า เหล่านักพยากรณ์เหล่านี้ ไม่ได้เพียงแค่อ่านผลลัพธ์ และสรุปผลที่ได้จากการคำนวณ แต่บางคนยังสามารถ บงการ ควบคุม หรือปรับเปลี่ยนธรรมชาติ ให้เป็นไปในเส้นทาง ที่ตนต้องการได้อีกด้วย ในปัจจุบัน ทฤษฎีเวทมนตร์ของจักรวรรดิ จึงยังไม่มีคำตอบ ให้กับศาสตร์แขนงนี้ของชาวอสุรา ว่ามันเป็นไปได้อย่างไรกันแน่ และการไถ่ถามกับเกจิอาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญในแขนงนี้ของชาวอสุรา ก็ให้คำตอบแค่เพียงว่า “ก็มันเป็นอย่างนั้นมิใช่หรืออย่างไร?” ราวกับว่าพวกเขารับรู้ และใช้งานวิชาแขนงนี้ ได้โดยไม่ต้องเข้าใจมันอย่างลึกซึ้งด้วยซ้ำ


8. ผู้สื่อวิญญาณ (Necrolyte)

อาชีพขั้นสอง พัฒนาจากผู้ใช้มนตรา เลเวล 41

ผู้สื่อวิญญาณหญิง

ศาสตร์เวทมนตร์โบราณที่เก่าแก่ที่สุดของชาวอสุรา คือวิชาสื่อวิญญาณ ซึ่งแก่นแท้ของวิชานี้กล่าวเอาไว้ว่า ทุกชีวิตล้วนมีดวงวิญญาณเป็นของตนเอง และแม้ชีวิตจะสิ้นไปแล้ว แต่วิญญาณก็ยังคงอยู่ ผู้สื่อวิญญาณ ทำหน้าที่เป็นเหมือนสะพาน ที่เชื่อมระหว่างโลกแห่งชีวิตที่เราอยู่ตามปกติ กับโลกของวิญญาณที่ทับซ้อนกับความเป็นจริงนี้ และเป็นหน้าที่และตำแหน่งของชาวอสุรา ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ในหมู่ผู้ใช้มนตราด้วยกัน

ดูผิวเผินแล้ว ผู้สื่อวิญญาณ อาจจะคล้ายกับนักบวช หรือผู้นำทางจิตวิญญาณของศาสนจักร หรือลัทธิต่างๆ แต่แท้จริงแล้ว นอกจากความสามารถในการสื่อสารกับวิญญาณ และเชื่อมต่อโลกใบนี้ กับโลกวิญญาณแล้ว เหล่าผู้สื่อวิญญาณยังมีความสามารถในการเปิด ปิด เชื่อมต่อ และประสานดวงวิญาณต่างๆ ทำให้เกิดผลในรูปแบบต่างๆ ขึ้นมาด้วย ซึ่งรากฐานของวิชานี้ ยังไม่มีผู้ใดในจักรวรรดิ เข้าใจกลไกการทำงานของมันได้อย่างแท้จริง