เนื้อเรื่อง
บันทึกเรื่องราวอสุรา: เหตุประหลาดในฟรอนเทียร์
วันที่สิบห้า เดือนลูซิสมูน มิตรศักราชที่ห้า
รายงานสถานการณ์ประจำวัน
วันนี้ผมได้รับคำสั่งตรงจากกองบัญชาการแห่งจักรวรรดิ ให้เคลื่อนกำลังหน่วยลาดตระเวนพิเศษ ออกจากค่ายเดธวัลเลย์ เพื่อมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านฟรอนเทียร์ทางทิศตะวันออก ภารกิจครั้งนี้เป็นการตรวจสอบเหตุการณ์สูญหายของชาวบ้าน ที่เกิดขึ้นติดต่อกันในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานจากหัวหน้าหมู่บ้านระบุว่า มีชาวบ้านมากกว่าสิบคนหายตัวไปโดยไม่มีร่องรอย บางส่วนเป็นชาวไร่ในพื้นที่ชานเมือง บางส่วนเป็นพ่อค้าเร่ ที่เดินทางผ่านเขตแดนของหมู่บ้าน โดยที่หน่วยลาดตระเวนในพื้นที่ ไม่พบร่องรอยของการต่อสู้หรือศพได้แม้แต่รายเดียว เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนก ให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
กองบัญชาการจึงเห็นสมควรให้หน่วยของเรา ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการเคลื่อนที่เร็ว และการสืบค้นในพื้นที่ภูเขา เป็นผู้เข้าไปตรวจสอบก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการส่งกำลังขนาดใหญ่ ที่อาจสร้างความแตกตื่นให้แก่ประชาชน
เส้นทางจากเดธวัลเลย์สู่ฟรอนเทียร์นั้น ขรุขระและอันตราย แต่หน่วยของเราคุ้นเคยดี จากการลาดตระเวนหลังช่วงสงครามพสุธานองเลือดเมื่อหลายปีก่อน ผมจึงมิได้กังวลนัก ทว่าส่วนหนึ่งในรายงานที่ทำให้กระผมไม่สบายใจ นั่นคือพยานบางรายอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุหายตัว มักได้ยินเสียงแปลกประหลาดจากใต้พื้นดิน หรือเห็นแสงลึกลับลิบๆ ราวกับเปลวไฟในหุบเขา
หน่วยของเรามีกำลังทั้งหมดแปดสิบชีวิต พร้อมยุทโธปกรณ์เบา และเสบียงสำหรับสิบสี่วัน เดินทางโดยใช้เส้นทางตะวันออกผ่านหุบเขาเดธวัลเลย์ขึ้นไปยังภูเขาของหมู่บ้านฟรอนเทียร์ คาดว่าจะถึงในสามวันหากไม่เกิดเหตุขัดข้องระหว่างทาง และเมื่อถึงที่หมาย จะปฏิบัติการณ์ภารกิจสืบค้นต่อไป
จ่าสิบเอกพิเศษ แองเจอเล่ เฮอร์มีส

วันที่สิบแปด เดือนลูซิสมูน มิตรศักราชที่ห้า
กระผมเขียนจดหมายฉบับนี้ ภายหลังจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างการเคลื่อนพล เมื่อวานที่ผ่านมา กองลาดตระเวนพิเศษของเรา ประสบภัยดินถล่มบริเวณช่องเขาทางตะวันออก ของเส้นทางฟรอนเทียร์ ทำให้เสียกำลังพลไป 9 นาย และบาดเจ็บอีก 12 นาย โชคยังดีที่ความเสียหายไม่ได้มากกว่านี้ เนื่องจากมีผู้มาช่วยเหลือในจังหวะวิกฤติ คือฟรีสต์ หัวหน้าหมู่บ้านฟรอนเทียร์ และชาวอสุราสองนาย ที่ระบุตัวว่าคือท่าน “ดำ” นักรบจากวิหารอสุรา และเด็กผู้ฝึกตนในความดูแลของเขา
แม้การปรากฏตัวของพวกเขาจะไม่อยู่ในรายชื่อหน่วยร่วมปฏิบัติการใด ๆ แต่จากการสอบถามเบื้องต้น พบว่าทั้งสองได้รับคำสั่งตรงจากราชาแห่งอสุรา เพื่อมายังฟรอนเทียร์เช่นเดียวกัน กระผมจึงเห็นสมควรยอมให้พวกเขา เข้าร่วมคณะเป็นการชั่วคราว ส่วนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตของกองกำลังเรา ได้มีคนจากหมู่บ้านฟรอนเทียร์เข้ามาช่วยเหลือดูแลให้
หลังตั้งค่ายพักในจุดปลอดภัย เราจึงส่งหน่วยลาดตระเวนย่อยออกตรวจพื้นที่โดยรอบ พบว่าดินถล่มไม่ได้เกิดจากภัยธรรมชาติทั้งหมด ร่องรอยในหินและดิน มีลักษณะเหมือนแรงสั่นสะเทือนจากใต้พื้นดิน คล้ายกับมีโพรงหรืออุโมงค์ขนาดใหญ่ด้านล่าง กระผมสงสัยว่า อุโมงค์นี้อาจเกี่ยวข้องกับเหตุชาวบ้านหายตัวที่ฟรอนเทียร์ เพราะเส้นทางของอุโมงค์นี้เชื่อมต่อไปยังหุบเขาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่บ้านพอดี
ในวันพรุ่งนี้ กระผมจะนำหน่วยหลักพร้อมอสุราทั้งสอง เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ใต้หุบเขา หากเป็นเพียงโพรงธรรมชาติ ก็คงไม่เกินกำลัง แต่หากมีสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งก่อสร้างอยู่เบื้องล่าง… กระผมคงต้องตัดสินใจในที่นั้นเอง ผมหวังว่าจะไม่ต้องส่งจดหมายฉบับถัดไป ในลักษณะรายงานการสูญเสียอีก
จ่าสิบเอกพิเศษ แองเจอเล่ เฮอร์มีส
วันที่สิบเก้า เดือนลูซิสมูน มิตรศักราชที่ห้า
กระผมเขียนรายงานฉบับนี้จากภายในอุโมงค์ใต้หุบเขาเดธวอลเล่ย์... หากรายงานนี้ไปถึงมือท่านได้ แสดงว่าอย่างน้อย ยังมีคนรอดพ้นจากขุมนรกแห่งนี้ออกไปได้ หลังจากเหตุการณ์ดินถล่ม หน่วยของเราได้ร่วมมือกับนักรบอสุราที่ชื่อ “ดำ” และวัยรุ่นชาวอสุราอีกหนึ่งนาย พวกเขาช่วยพวกเราผ่านเส้นทางที่ถูกปิดตาย เข้ามาได้ลึกจนถึงเขตอุโมงค์แห่งนี้ พื้นผิวของผนังมีร่องรอยการขุดอย่างจงใจโดยกรงเล็บ ไม่ใช่ทางธรรมชาติ ทุกอย่างบ่งชี้ให้เห็นว่า นี่เป็นฝีมือของหน่วย “คร็อกโคเดี้ยน” ภายใต้จักรวรรดิซอเรี่ยน
พวกมันจัดรูปขบวนและใช้อาวุธอย่างเป็นระบบ ราวกับมีผู้นำควบคุมอยู่เบื้องหลัง ต่างกับคร็อกโคเดี้ยนที่ถูกส่งมาสร้างความวุ่นวายทางเหนือของทวีป เราถูกซุ่มโจมตีจากทั้งสองทาง เสียงระเบิดของพวกมันทำให้เพดานอุโมงค์พังทลาย ทำให้กำลังพลของเราเจ้าที่เหลืออยู่ และนักรบอสุรา ติดอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของอุโมงค์
ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่ชั่วโมงแล้ว เสียงปืนและเสียงคำรามของพวกมัน ดังสลับกับเสียงครวญของผู้บาดเจ็บ ทุกคนหมดแรงแต่ยังคงสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ผมกับดำพยายามยันแนวหน้าไว้เท่าที่ทำได้ ทั้งฝ่ายของเราและฝ่ายของพวกมัน ต่างสูญเสียกำลังจำนวนมาก และในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ ผมก็ได้แต่ภาวนาว่าฝ่ายของพวกมัน จะสูญเสียมากกว่าฝ่ายของเรา
เรากำลังจะหมดกระสุน และเสบียง เหลือเพียงแสงไฟจากตะเกียงที่ริบหรี่ลงทุกขณะ อุโมงค์สั่นสะเทือนทุกครั้ง ที่พวกมันโจมตีจากชั้นล่างขึ้นมา กระผมสั่งให้พลทหารที่เหลืออีกสิบสามนาย ทยอยล่าถอยกลับไปยังเส้นทางที่เปิดไว้ ขณะที่ผมกับนักรบอสุราทั้งสองจะคอยเฝ้าดูต้นทาง และการเคลื่อนไหวที่อาจจะเข้ามา ผมไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้เราจะยังอยู่ครบหรือไม่
หากหน่วยสนับสนุนมาถึงเมื่อใด ขอให้ตามหาชาวบ้านฟรอนเทียร์ก่อนเป็นลำดับแรก กระผมมั่นใจว่าพวกเขายังคงหลงอยู่ภายในอุโมงค์แห่งนี้ เราพบหลักฐานมากพอที่จะยืนยันได้ว่า พวกคร็อกโคเดี้ยนกำลังกระทำการบางอย่างเบื้องล่างในอุโมงค์เหล่านี้ และการหายตัวไปของชาวบ้าน เกี่ยวข้องกับพวกมันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ผมไม่รู้ว่าเราจะออกไปได้หรือไม่ แต่ผมจะทำทุกวิถีทางให้ข้อมูลนี้ถูกส่งถึงจักรวรรดิให้ได้ ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
จ่าสิบเอกพิเศษ แองเจอเล่ เฮอร์มีส
วันที่ยี่สิบสอง เดือนลูซิสมูน มิตรศักราชที่ห้า
รายงานภารกิจจากหน่วยเคลื่อนที่เร็วพิเศษ
กระผมขอรายงานสรุปผลภารกิจ ภายหลังจากเหตุการณ์ในอุโมงค์ใต้ภูเขาเมื่อสามวันก่อน เราสามารถถอนกำลังที่เหลือรอดออกมาได้สำเร็จ พร้อมกับชาวบ้านฟรอนเทียร์จำนวนยี่สิบหกชีวิต ที่ถูกคุมขังไว้โดยคร็อกโคเดี้ยน พวกเขาอ่อนแรงและบอบช้ำแต่ยังมีลมหายใจ กระผมได้ส่งตัวพวกเขา ให้กับกลุ่มแพทย์ในหมู่บ้านฟรอนเทียร์เพื่อรับการรักษาแล้ว
แม้ว่าภารกิจจะลุล่วง และช่วยเหลือชาวบ้านได้สำเร็จ แต่ความเสียหายที่กำลังของเราได้รับ ทำให้กระผมไม่แน่ใจ ว่าจะเรียกความสำเร็จของภารกิจนี้ เป็นชัยชนะได้หรือไม่ เราได้เสียกำลังพลไปมากกว่าสามสิบนาย ในการต่อสู้กับคร็อกโคเดี้ยน ซึ่งสาเหตุที่พวกมันรุกรานเข้ามาถึงที่นี่ คงจะต้องขอให้ท่านดำเนินการสืบค้นต่อไป เนื่องจากกำลังพลของกระผม คงไม่อาจดำเนินการในส่วนนี้ต่อได้ไปอีกสักระยะ
บัดนี้ กำลังพลของกระผมจำต้องตั้งหลักอยู่ในหมู่บ้านฟรอนเทียร์ อีกสักระยะหนึ่ง เพื่อพักฟื้นและดูแลรักษาผู้บาดเจ็บ ในส่วนของรายงานผู้เสียชีวิต กระผมจะแนบรายชื่อใบยังด้านท้ายของรายงานฉบับนี้ เพื่อให้ท่านได้ส่งต่อข้อมูล ให้กับญาติของนายทหารผู้สละชีพเพื่อปกป้องจักรวรรดิของเรา
เมื่อกำลังพลของเราพร้อมเคลื่อนทัพอีกครั้ง ข้าพเจ้าจะส่งรายงานเพิ่มเติมไปภายหลัง หากท่านมีความเห็นหรือคำสั่งทางการทหารเป็นอย่างอื่น ก็ขอให้ส่งข้อความด่วนมายังหมู่บ้านฟรอนเทียร์ด้วย
ขอจบการรายงานแต่เพียงเท่านี้
จ่าสิบเอกพิเศษ แองเจอเล่ เฮอร์มีส